วิธีป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ดีที่สุดในปัจจุบันยังต้องยกให้กับการใช้ “ถุงยางอนามัย” อย่างไรก็ตามความผิดพลาดย่อมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ เช่น ถุงยางแตก หรือถุงยางรั่ว ขณะมีเพศสัมพันธุ์ คำถามคือเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นต้องทำยังไง ต้องตรวจเลือด HIVไหม มีวิธีป้องกันและแก้ปัญหาแบบไหนบ้าง มาหาข้อมูลกันได้เลย
หัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับถุงยางแตก
- ถุงยางแตก ถุงยางรั่ว เป็นยังไง?
- สาเหตุที่ถุุงยางแตกเกิดจากอะไร?
- ถุงยางแตกต้องทำอย่างไร
- อันตรายที่เกิดจากถุงยางแตก
- ถุงยางแตก มีโอกาสท้องไหม?
- วิธีป้องกันถุงยางแตก ถุงยางรั่ว
ถุงยางแตก ถุงยางรั่ว เป็นยังไง?
ถุงยางแตก คือ เป็นลักษณะที่ถุงยางอนามัยมีจุดรูเล็ก ๆ หรือรอยฉีกขาดออกจากกัน ไม่ผสานเป็นเนื้อเดียวจนทำให้ของเหลวสามารถไหลผ่านออกไปไม่อยู่ในกระเปาะหรือตัวถุงยางอย่างที่ควร ซึ่งวิธีสังเกตคือ เมื่อเกิดการหลั่งน้ำอสุจิแล้วปรากฏไม่มีน้ำหลงเหลืออยู่ในถุงยางอยู่เลย ก็สันนิษฐานไม่ยากว่าโอกาสถุงยางขาด รั่ว หรือแตกมีสูงมาก
สาเหตุที่ถุงยางแตกเกิดจากอะไร?
- ขนาดถุงยางเล็กกว่าขนาดอวัยวะเพศ เมื่อสวมใส่แล้วโอกาสฉีกขาดมีสูง
- ถุงยางหมดอายุแล้วนำมาใช้งาน ทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ
- ใช้ของมีคมหรือฉีกบรรจุภัณฑ์ถุงยางผิดวิธี จนไปโดนกับตัวถุงยางและฉีกขาดหรือรั่ว
- สวมถุงยางไม่ถูกต้อง ไม่มีการบีบปลายกระเปาะจนทำให้อากาศอัดแน่นมากเกินไปและมีโอกาสแตกได้ง่าย
- เก็บถุงยางไม่เหมาะสม เช่น โดนแสงแดด อยู่ในที่อุณหภูมิสูง หรือโดนกดทับเป็นเวลานาน
- สอดใส่แล้วอีกฝ่ายไม่มีน้ำหล่อลื่นมากพอจนเกิดการเสียดสีและฉีกขาดได้ง่ายขึ้น
ถุงยางแตกต้องทำอย่างไร?
- กรณีระหว่างมีเพศสัมพันธ์แล้วรู้ทันว่าถุงยางแตก ให้รีบเปลี่ยนชิ้นใหม่ทันที
- แต่ถ้ารู้หลังจากมีการหลั่งเรียบร้อยแล้วว่าถุงยางขาด แนะนำป้องกันเบื้องต้นโดยให้ฝ่ายหญิงรีบเข้าห้องน้ำแล้วปัสสาวะออกมาด้วยวิธีนั่งยอง เป็นการขับเอาอสุจิบริเวณใกล้ท่อปัสสาวะ รวมถึงขมิบบริเวณกล้ามเนื้อช่องคลอดด้วย
- ทำความสะอาดอวัยวะเพศโดยการนั่งยอง ๆ แล้วล้างด้วยน้ำอุ่น (ห้ามใช้สายฉีดหรือฝักบัวฉีดเข้าไปเด็ดขาด)
- ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ภายใน 72 ชั่วโมง
- หลังจากนั้นไม่ว่าจะเจอปัญหาถุงยางแตกระหว่างหรือหลังมีเพศสัมพันธ์แล้ว เพื่อความมั่นใจควรพบแพทย์เพื่อขอตรวจเลือดเกี่ยวกับโรคทางเพศสัมพันธ์ และปรึกษาแพทย์โดยอาจได้รับการจ่ายยาเป๊ป หลังจากนั้นหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสี่ยงต่อการมีเชื้อ HIV ควรตรวจเลือดซ้ำอีก 3 เดือนถัดไป
อันตรายที่เกิดจากถุงยางแตก
มีความเสี่ยงต่อการเกิดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
เสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ติดเชื้อ HIV (โรคเอดส์) หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เริม ติดเชื้อ HPV ติดเชื้อโลน เป็นต้น
ถุงยางแตก มีโอกาสท้องไหม?
หากมีการหลั่งภายในช่องคลอดเรียบร้อยแล้ว ปรากฏพบว่าถุงยางแตก ก็มีโอกาสท้องได้ ไม่ต่างจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมใส่
- เลือกใช้ถุงยางที่มีคุณภาพ ไม่เก็บไว้นานเกินไป
- ก่อนสวมใส่ให้ตรวจสภาพถุงยางก่อนว่ามีรอยรั่ว แตก หรือฉีกขาดตรงจุดไหนหรือไม่
- ค่อย ๆ แกะบรรจุภัณฑ์โดยพยายามไม่ให้ฉีกโดนตัวถุงยางและไม่ควรใช้ของมีคมตัดเด็ดขาด
- สวมถุงยางอนามัยให้ถูกต้องโดยบีบปลายกระเปาะเพื่อไล่ฟองอากาศอีกมือค่อย ๆ ดึงถุงยางเข้าหาตัวขณะสวมใส่
- แนะนำให้ใช้เจลหล่อลื่นแบบน้ำมากกว่าแบบน้ำมัน
อย่างไรก็ตามหากพึ่งรู้ว่าถุงยางแตก รั่ว หรือขาด หลังมีเพศสัมพันธ์เรียบร้อยแล้ว ควรตรวจ STD ทันที, ไปพบแพทย์เพื่อขอรับยาเป๊ปภายใน 72 ชั่วโมง และควรไปตรวจ HIV อีกใน 3 เดือนถัดไป (หากคู่นอนหรือตัวคุณสุ่มเสี่ยงต่อการติดโรค)
อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม
คลินิกเวชกรรม
แก้ไขล่าสุด : 07/11/2024
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com