ปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ชาย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ การแพ้ หรือการระคายเคือง การรักษาสุขอนามัยไม่ดี โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลาย
ทำให้เชื้อแบคทีเรียสะสมบริเวณหนังหุ้มปลาย เกิดจากการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การใช้โลชั่นหรือสบู่ และอีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญที่พบบ่อยๆ ก็คือการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ถ้าหากมีอาการผิดปกติที่ปลายอวัยวะเพศ ปลายองคชาตอักเสบ ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจให้ละเอียด ตรวจภายในผู้ชาย เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่ถูกต้องนะคะ
ข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับปลายองคชาตอักเสบหรือปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ
- ปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ คืออะไร
- สาเหตุของปลายองคชาตอักเสบ
- อาการปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ
- การป้องกันปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ
- การติดต่อของโรคไปยังคู่รัก
- การขลิบช่วยป้องกันปลายอวัยวะเพศชายอักเสบอย่างไร
ปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ คืออะไร
ปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ (Balanitis) คือภาวะการอักเสบและติดเชื้อของบริเวณส่วนปลายอวัยะเพศชาย หรือ บริเวณหนังหุ้มปลาย ซึ่งสามารถเกิดได้จากเชื้อหลายชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อไวรัส
สาเหตุของปลายองคชาตอักเสบ
สาเหตุของปลายองคชาตอักเสบเกิดได้จากหลายสาเหตุ กลุ่มเสี่ยงที่พบโรคนี้ได้บ่อยคือ ในผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการขลิบหนังหุ้มปลายหรือมีหนังหุ้มปลายส่วนเกินเยอะเกินไป และกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคปลายองคชาตอักเสบที่พบบ่อยมีดังนี้
- ติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนัง มักพบ ในผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการขลิบหนังหุ้มปลายหรือมีหนังหุ้มปลายส่วนเกินเยอะเกินไป และผู้ป่วยที่มีสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศไม่สะอาด
- ติดเชื้อรา มักพบในผู้ป่วยสูงอายุและเป็นเบาหวาน , การอับชื้นบริเวณอวัยวะเพศ
- ติดเชื้อกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ ซิฟิลิส (Syphilis) , ไวรัสเริม (Herpes visrus) , ไวรัสเอชพีวี (Humanpapilloma virus : HPV ) เชื้อพยาธิช่องคลอด (Trichomonas vaginalis) , หนองใน เป็นต้น
- กลุ่มที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น ภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ การแพ้และระคายเคืองจากสารเคมีหรือสบู่ มะเร็ง เป็นต้น
โดยการหาสาเหตุในผู้ป่วยแต่ละราย ต้องอาศัยประวัติ การตรวจร่างกาย และการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม และการรักษาแต่ละสาเหตุก็จะแตกต่างกันไป
อาการปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ
อาการที่พบบ่อยในกลุ่มติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนังและกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มักเป็นอาการปวดบวมแดงบริเวณปลายอวัยวะเพศ อาจมีผื่นหรือรอยแผล และหนองร่วมด้วย
ในเคสที่เป็นการติดเชื้อรา และกลุ่มภูมิแพ้ผิวหนัง มักจะมีอาการคัน ผิวหนังแห้งระคายเคือง มีผื่น มีตุ่มที่องคชาต บางรายอาจมีอาการปวดแสบร่วมด้วยได้
การป้องกันปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ
- แนะนำเรื่องการดูแลทำความสะอาดอวัยวะเพศ ระมัดระวังเรื่องความอับชื้นบริเวณอวัยวะเพศ
- แนะนำขลิบปลายอวัยวะเพศในกลุ่มผู้ป่วยที่หนังหุ้มปลายส่วนเกินเยอะหรือรูดหนังหุ้มปลายได้ไม่สุด
- แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัย เมื่อมีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- แนะนำสังเกตผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดว่ามีความระคายเคืองต่ออวัยวะเพศหรือไม่
การติดต่อของโรคไปยังคู่รัก
สามารถติดต่อไปยังคู่นอนได้ ทั้งคู่นอนชายหญิงและคู่นอนข้ามเพศ หากสาเหตุที่ทำให้เกิดปลายอวัยวะเพศอักเสบนั้น เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ ซิฟิลิส เชื้อไวรัสเริม (Herpes visrus) ,ไวรัสเอชพีวี (Humanpapilloma virus : HPV ) เชื้อพยาธิช่องคลอด (Trichomonas vaginalis) , หนองใน เป็นต้น
แต่ถ้าหากสาเหตุเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนัง ติดเชื้อราที่อวัยวะเพศชาย และกลุ่มที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อนั้น ไม่สามารถติดต่อไปยังคู่นอนได้ แต่อาจส่งผลทำให้ช่องคลอดระคายเคืองได้ในบางราย
การขลิบช่วยป้องกันปลายอวัยวะเพศชายอักเสบอย่างไร
การขลิบ (circumcision) เป็นการผ่าตัดนำหนังหุ้มปลายส่วนเกินออก ทำให้สามารถทำความสะอาดบริเวณปลายอวัยวะเพศได้ง่ายและสะอาดมากยิ่งขึ้น และยังลดการอับชื้น ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการติดเชื้อง่ายกว่าปกติ
ถ้าหากมีอาการผิดปกติ ปลายอวัยวะเพศอักเสบ หรือปลายองคชาตอักเสบ ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาปลายอวัยวะเพศชายอักเสบที่ถูกต้อง แพทย์จะตรวจร่างกาย ตรวจบริเวณอวัยวะเพศ ตรวจภายสำหรับในผู้ชาย หรือตรวจเพิ่มเติมโดยการเจาะเลือดและตรวจปัสสาวะ
เอกสารอ้างอิง
- 2022 European guideline for the management of balanoposthitis , Sarah K. Edwards1 | Christopher B. Bunker2 | Eric M. van der Snoek3 | Willem I. van der Meijden
บทความที่น่าสนใจ
- ตรวจภายในผู้ชาย ต้องตรวจอะไรบ้าง? อาการแบบไหนต้องตรวจ
- รักษาปลายอวัยวะเพศชายอักเสบพร้อมแนวทางวินิจฉัย
- ตุ่มขึ้นที่อัณฑะ ตุ่มที่องคชาต เกิดจากอะไร เป็นโรคอะไรบ้าง?
พญ.ณัฐวดี ศรีบริสุทธิ์
แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป
แก้ไขล่าสุด : 12/12/2023
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com