การรักษาปลายอวัยวะเพศชายอักเสบเป็นสิ่งที่จำเป็นและคุณผู้ชายควรให้ความสำคัญ เพราะปลายอวัยวะเพศชายอักเสบเป็นโรคที่พบได้บ่อย เกิดได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะไม่ร้ายแรง แต่ถ้าหากเกิดจากการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็น่ากังวล และสามารถเกิดโรคแทรกซ้อนที่นำไปสู่การเป็นโรคอื่นๆได้
จึงควรได้รับการการวินิจฉัยจากแพทย์ ตรวจภายในสำหรับผู้ชาย และรักษาปลายอวัยวะเพศชายอักเสบด้วยวิธีที่ถูกต้อง
ข้อควรรู้เรื่องการรักษาปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ
อาการแทรกซ้อนของปลายองคชาตอักเสบ
ปลายองคชาตอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อ หากมีอาการรุนแรงหรือไม่ได้รับการรักษาปลายองคชาตอักเสบ สามารถติดเชื้อลุกลามไปยังอวัยวะใกล้เคียงได้ เช่น บริเวณองคชาต อัณฑะ หรือทำให้ท่อปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
อาการแทรกซ้อนของปลายองคชาตอักเสบในผู้ป่วยติดเชื้อราหรือภูมิแพ้ผิวหนัง อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้
ปลายอวัยวะเพศอักเสบที่ไม่ได้หาสาเหตุและรักษา อาจมีผลระยะยาวต่อการปัสสาวะหรือสมรรถภาพทางเพศได้
การวินิจฉัยการอักเสบของปลายอวัยวะเพศชาย
การวินิจฉัยปลายอวัยวะเพศชายอักเสบนั้น แตกต่างกันตามสาเหตุที่ทำเกิดการอักเสบ โดยการหาสาเหตุในผู้ป่วยแต่ละราย ต้องอาศัยประวัติ การตรวจร่างกาย และการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม เช่น การตรวจหาเชื้อรา เชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นต้น และการรักษาปลายอวัยวะเพศชายอักเสบแต่ละสาเหตุก็จะแตกต่างกันไป
การรักษาปลายองคชาตอักเสบ
การรักษาปลายองคชาตอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบ แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสม เช่น ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ยาทาลดการอักเสบ
ไม่แนะนำให้ซื้อยาใช้เอง เนื่องจากการใช้ยาผิดสาเหตุอาจทำให้อาการแย่ลง
การแนะนำการดูแลทั่วๆไปในเคสปลายอวัยวะเพศอักเสบ คือการใช้สบู่อ่อนๆที่อ่อนโยนในช่วงที่มีการอักเสบ การดูแลรักษาความสะอาด และหลีกเลี่ยงความอับชื้น
เอกสารอ้างอิง
- 2022 European guideline for the management of balanoposthitis , Sarah K. Edwards1 | Christopher B. Bunker2 | Eric M. van der Snoek3 | Willem I. van der Meijden
บทความที่น่าสนใจ
- ตรวจภายในผู้ชาย ต้องตรวจอะไรบ้าง? อาการแบบไหนต้องตรวจ
- ปลายองคชาตอักเสบ มีอาการ สาเหตุ วิธีป้องกันอย่างไร
- ตุ่มขึ้นที่อัณฑะ ตุ่มที่องคชาต เกิดจากอะไร เป็นโรคอะไรบ้าง?
พญ.ณัฐวดี ศรีบริสุทธิ์
แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป
แก้ไขล่าสุด : 13/12/2023
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com