วัคซีนมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ของหญิงไทย และมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงถึงร้อยละ 50 ซึ่งคิดเป็นผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 6 คนต่อวัน* ทั้งที่มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่สามารถป้องกันได้ และในปัจจุบันแนวโน้มการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูกก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บทความนี้จะพาท่านมาทำความรู้จักกับวัคซีน HPV ที่ไม่ได้มีดีแค่ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ว่าทำไมคุณถึงควรฉีด ใครฉีดได้บ้าง ชนิด 4 สายพันธุ์ และ 9 สายพันธุ์ ต่างกันยังไง ผลข้างเคียงของวัคซีนมีไหม ราคาเท่าไหร่ หาคำตอบได้ที่บทความนี้เลยค่ะ
เอกสารอ้างอิง : คนึงนิจ กิตติจันทร์เมธี, ภ.บ.*, จันทร์พร ก้องวัชรพงศ์, ภ.บ.(บริบาลทางเภสัชกรรม), ว.ภ. (เภสัชบำบัด). บทความโรคและยาใหม่, วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีชนิด 9 สายพันธุ์
หัวข้อน่าสนใจ
วัคซีน HPV คืออะไร
วัคซีน hpv หรือ วัคซีนมะเร็งปากมดลูก คือ วัคซีนที่มีไว้ฉีดเพื่อป้องกันเชื้อไวรัส Human Papiloma Virus หรือ HPV ซึ่งเชื้อเป็นสาเหตุของหลายโรคไม่ว่าจะเป็น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก มะเร็งลำคอ และหูดหงอนไก่ ที่สามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ วัคซีนนี้สามารถป้องกันเชื้อ HPV ได้บางสายพันธุ์เท่านั้น ในปัจจุบันจะวัคซีน HPV 3 ชนิด คือ ชนิด 2 สายพันธุ์ , 4 สายพันธุ์ และ 9 สายพันธุ์
วัคซีนมะเร็งปากมดลูกจำเป็นต้องฉีดไหม
วัคซีนมะเร็งปากมดลูกถือว่ามีความจำเป็นที่ควรฉีดตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเชื้อ HPV แต่ละชนิดมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน บางสายพันธุ์ก็สามารถก่อมะเร็งได้ โดยชนิดที่ก่อความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ มี 15 สายพันธุ์ คือ 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 56, 58, 59, 66, 68 และ 73
-
สายพันธุ์ที่ 16 และ 18 สามารถทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้ ร้อยละ 70
-
สายพันธุ์ที่ 31 33 35 39 45 51 56 58 59 66 68 และ 73 สามารถทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้ ร้อยละ 30
-
สายพันธุ์ที่เหลือ จะเป็นชนิดที่ก่อให้เกิดมะเร็งค่อนข้างต่ำ
โรคมะเร็งจากเชื้อ HPV เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก มะเร็งลำคอ เป็นต้น และยังทำให้เกิดหูดหงอนไก่ ที่แม้ว่าจะรักษาหายได้แต่ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก เพราะฉะนั้น การฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกถือเป็นการลงทุนทางสุขภาพที่ถือว่าคุ้มค่าอยู่
วัคซีน HPV ป้องกันอะไรได้บ้าง
-
มะเร็งทวารหนัก
-
มะเร็งช่องคลอด
-
มะเร็งลำคอ
-
มะเร็งอัณฑะ
-
เนื้องอกที่เกิดจากการติดเชื้อที่กล่องเสียง
ชนิด 9 สายพันธุ์ (Gardasil 9)
-
เป็นชนิดที่แนะนำให้ฉีด เพราะสามารถป้องกันเชื้อ hpv ได้ถึง 9 สายพันธุ์ ได้แก่ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 4,5 52 และ 58
-
มีประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้สูงถึงร้อยละ 90 ซึ่งถือว่าสูงกว่าชนิด 4 สายพันธุ์พอสมควร
-
หูดหงอนไก่สูงกว่าร้อยละ 90 เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อาจเคยได้รับเชื้อ HPV บางสายพันธุ์มาแล้ว สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อจากสายพันธุ์อื่นๆ เพิ่มได้ด้วย
ใครควรฉีดวัคซีน HPV บ้าง
วัคซีน HPV เป็นวัคซีนที่เหมาะกับคนทุกเพศไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง โดยเฉพาะในผู้ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธุ์ โดยเฉพาะในช่วงอายุ 9-26 ปี
ผู้หญิง
สำหรับผู้หญิงวัคซีนตัวนี้ถือว่ามีความสำคัญ เพราะสามารถช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ ซึ่งผู้หญิงไทยเป็นกันเยอะมาก รวมถึงยังป้องกันมะเร็งชนิดอื่นที่เกิดจากเชื้อตัวนี้ด้วย และหูดที่อวัยวะเพศ
ผู้ชาย
ผู้ชายบางคนที่ได้ยินคำว่าวัคซีนมะเร็งปากมดลูกอาจคิดว่านี่มันของผู้หญิงเขาฉีดกันมั้ง แต่จริงๆผู้ชายก็สามารถฉีดได้นะ เพราะวัคซีน HPV สามารถป้องกันมะเร็งชนิดอื่นๆนอกจากมะเร็งปากมดลูกได้ด้วย เช่น มะเร็งทวารหนัก มะเร็งลำคอ มะเร็งอัณฑะ และหูดที่อวัยวะเพศ (หูดหงอนไก่)
ควรฉีดตอนไหน
การฉีดวัคซีน HPV ให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุด ควรฉีดในตอนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ โดยเริ่มฉีดได้เมื่ออายุ 9 -26 ปี ส่วนหากในกรณีที่ผู้ฉีดมีอายุเกิน 26 ปีแล้ว อาจต้องพิจารณาเพิ่มเติมดังนี้
-
อายุเกิน 26 ปี ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ กลุ่มนี้ควรรับการฉีดวัคซีน เพราะวัคซีน HPV นั้นจะให้ผลการป้องกันได้ดีในผู้ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ และทั้งนี้ยังถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน HPV ตั้งแต่เนิ่นๆ
-
อายุมากกว่า 26 ปี เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว โดยเฉพาะใครที่เคยได้รับเชื้อ HPV มาก่อน ร่างกายอาจมีภูมิต้านทานโดยธรรมชาติการฉีดวัคซีน HPV จึงอาจไม่ได้มีประโยชน์มากเท่าที่ควร แต่หากใครที่ยังไม่เคยติดเชื้อ HPV การฉีดวัคซีนก็ถือว่ายังมีประโยชน์อยู่ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมก่อนรับวัคซีน
ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก
ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกอาจมีเพียงเล็กน้อย เช่น ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด คลื่นไส้ เวียนศีรษะ มีไข้ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงไม่มาก แต่มีรายงานอาการรุนแรงในกลุ่มที่มีประวัติแพ้วัคซีนชนิดอื่น ๆ ซึ่งต้องซักถามประวัติให้ดี
อาจมีอาการหน้ามืด เป็นลม ซึ่งพบได้บ่อยในวัยรุ่น เพื่อป้องกันการเป็นลม หรือได้รับบาดเจ็บจากการเป็นลม แนะนำให้ผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) นั่งพักอยู่กับที่ เป็นเวลา 15 นาที
ราคาวัคซีน HPV
4 สายพันธุ์
-
วัคซีน HPV 4 สายพันธุ์ แบบฉีดเป็นครั้ง ราคา 4,500 บาท/ครั้ง (ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม)
-
วัคซีน HPV 4 สายพันธุ์ แบบเหมาจ่าย 3 เข็ม ราคา 11,900 บาท
9 สายพันธุ์
-
วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ แบบฉีดเป็นครั้ง ราคา 8,900 บาท/ครั้ง (ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม)
-
วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ แบบเหมาจ่าย 3 เข็ม ราคา 23,900 บาท
นอกจากการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก แล้วก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เพราะถึงแม้เปอร์เซ็นต์การป้องกันของวัคซีนจะสูง แต่ก็ไม่ได้ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว หรือผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่แต่งงานแล้วควรรับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ
สามารถรับบริการ ‘ฉีดวัคซีน HPV’ หรือ ‘ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก’ ไปพร้อมๆกันได้ที่ อินทัชเมดิแคร์ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือ ค้นหา ‘ฉีดวัคซีน HPV ใกล้ฉัน’ ใน Google ได้เลยค่ะ
เอกสารอ้างอิง
-
พญ.ฤดีวิไล สามโกเศศ, วัคซีนป้องกันเอชพีวี
-
พญ.ชัญวลี ศรีสุโข, สุขภาพผู้หญิง ล้วงลึกโรคภัยที่สตรีควรรู้
-
Q&A ไขปัญหา “วัคซีน” อาวุธสำคัญในการป้องกันโรคร้าย
บทความที่น่าสนใจ
อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม
คลินิกเวชกรรม
แก้ไขล่าสุด : 26/10/2024
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com