คันช่องคลอด คันอวัยวะเพศหญิง สาเหตุและการรักษา

คันช่องคลอดหรือคันอวัยเพศหญิง เป็นอาการที่สาวๆกำลังเจอปัญหาอยู่ เมื่อเจอปัญหานี้แล้วบางคนตัดสินใจรักษาด้วยการซื้อยามาทานเอง ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ได้รับยาที่ไม่ผ่านการปรึกษาจากแพทย์ และรักษาอาการคันอวัยวะเพศที่ไม่ตรงจุด ดังนั้นควรมาพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาให้ถูกวิธี 

วันนี้เราจะพามาดูว่าอาการคันอวัยวะเพศหญิง เกิดจากอะไร สาเหตุมาจากไหน จะมีวิธีการบรรเทาอาการคันช่องคลอดอย่างไร รวมไปถึงวิธีการรักษาอาการคันด้วยค่ะ 


หัวข้อที่น่าสนใจ

คันช่องคลอด คืออะไร

คันช่องคลอด คืออะไร

คันช่องคลอด (Vaginal Itching) คือ อาการคันบริเวณอวัยวะเพศหญิง มีทั้งคันภายนอก ได้แก่ อาการคันเนินอวัยวะเพศหรือเนินหัวหน่าว (mons pubis), บริเวณขน, ปุ่มคลิตอริส (Clitoris), แคมใหญ่ (Labia Majora), แคมเล็ก (Labia Minora), คันกลีบ 

และคันเข้าไปในช่องคลอด ช่องปัสสาวะ (Urethral Opening) จนถึงปากช่องคลอด (Vaginal Opening) อาจส่งผลให้มีการติดเชื้อในช่องคลอดหรือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงมีอาการตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย

พบแพทย์ที่อินทัชเมดิแคร์

อาการคันช่องคลอดของผู้หญิง เกิดจากอะไร

คันอวัยวะเพศ มี 2 แบบคือ คันภายนอกอวัยวะเพศและคันภายในอวัยะเพศ ซึ่งมีสาเหตุการคันไม่เหมือนกัน ตามรายละเอียดด้านล่าง

คันภายในช่องคลอด

คันภายในช่องคลอด  ปกติแล้วในช่องคลอดของมนุษย์เรานั้นมีเชื้อประจำถิ่นอยู่แล้ว (Normal vaginal flora) การคันในช่องคลอดจึงมักเกิดจากการติดเชื้อต่างๆ ดังต่อไปนี้

  1. ติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial vaginosis) มักมีตกขาวสีเหลือง มีกลิ่นคาวร่วมด้วย

  2. ติดเชื้อรา (Candidal vaginitis) เชื้อราในช่องคลอดมักมีตกขาวเป็นลิ่มสีขาวๆ คล้ายก้อนแป้ง

  3. ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น  โรคพยาธิในช่องคลอด (Trichomonas vaginitis) มักจะมีอาการคันมาก ตกขาวมีสีเหลืองเขียว , โรคหนองใน และหนองในเทียม (Gonorrhea / Chlamydial infection)

  • หมายเหตุ : การสวนล้างช่องคลอดอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดอาการตกขาวผิดปกติและคันภายในช่องคลอดได้

คันภายนอกช่องคลอด

คันภายนอกช่องคลอด สาเหตุที่พบเจอได้บ่อยจะมีดังนี้

  1. โกนขนบริเวณอวัยวะเพศ

  2. ระคายเคืองจากผ้าอนามัย, ชุดชั้นในหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

  3. ใส่เสื้อผ้าที่มีขนาดเล็กเกินพอดี ทำให้เกิดการเสียดสี

  4. โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema)

  5. โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)

  6. โรคเริม (Genital herpes) อาจทำให้เกิดอาการคันได้ในบางกรณี แต่ส่วนมากมักมีอาการปวด แสบ มากกว่า

  7. โรคมะเร็งปากช่องคลอด (Vulvar cancer) อาจจะมีแผลเรื้อรัง และเลือดออกจากแผลร่วมด้วย

พบแพทย์ที่อินทัชเมดิแคร์

 สาเหตุอื่นๆของการคันช่องคลอดหรือคันอวัยเพศหญิงที่พบได้น้อยและพบเจอในคนไข้เฉพาะกลุ่ม

  1. กลุ่มคนไข้ที่หมดประจำเดือนไปแล้ว (postmenopausal women) อาจมีปัญหาเรื่องช่องคลอด และปากช่องคลอดแห้งจากระดับฮอร์โมนเพศที่ต่ำลง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและรับยาฮอร์โมนทดแทนหากมีอาการดังกล่าว

  2. กลุ่มคนไข้อื่นๆ เช่น ได้รับอุบัติเหตุช่องคลอดฉีกขาดขณะคลอดบุตร หรือมีโรคมะเร็งบางชนิด ที่ทำให้เกิดรูเชื่อมระหว่างช่องคลอด และลำไส้ใหญ่ (fistula) อาจทำให้มีอุจจาระไหลออกจากช่องคลอด โดยไม่รู้ตัวได้ ทำให้มีอาการคันต่อเนื่อง และมีอาการตกขาวเรื้อรังที่รักษาไม่หาย

อาการที่พบร่วมกับอาการคันช่องคลอด

อาการที่พบร่วมกับอาการคันช่องคลอด

อาการร่วมที่พบบ่อยที่สุด คือ อาการตกขาวผิดปกติ ซึ่งมักมีสาเหตุจากการติดเชื้อที่กล่าวไปข้างต้น นอกจากนี้ยังมีอาการร่วมอื่นๆที่พบได้ ดังนี้

  1. มีไข้

  2. ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย

  3. มีแผลบริเวณปากช่องคลอด

  4. มีอาการปัสสาวะขัด

  5. มีเลือดออกผิดปกติ

 หากมีอาการร่วมข้อใดข้อหนึ่งให้พบแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินเพิ่มเติม

วิธีบรรเทาอาการคันช่องคลอดเบื้องต้น

ทำอย่างไรหากมีอาการคันช่องคลอด สามารถทำได้ดังนี้

วิธีบรรเทาอาการคันช่องคลอดเบื้องต้น

  • ทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า หรือสบู่ที่อ่อนโยนวันละ 1 ครั้ง เฉพาะภายนอก

  • งดเว้นการใช้สบู่ที่มีสารทำความสะอาดรุนแรงบริเวณจุดซ่อนเร้น เช่น สบู่สมุนไพรหรือสบู่ที่ใช้แล้วมีความตึงผิวสูง เพราะทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณปากช่องคลอด ทำให้ผิวหนังแห้งและคันมากขึ้น

  • ห้ามสวนล้างช่วงคลอดโดยเด็ดขาด

  • หลังเสร็จกิจจากการถ่ายหนัก ควรทำความสะอาดจากหน้าไปหลัง เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากทวารหนัก

  • หลีกเลี่ยงใส่กางเกงในที่มีขนาดเล็กแน่นเกินพอดี ลดการเสียดสี

  • หลีกเลี่ยงการใส่ผ้าอนามัยชนิดสอดเข้าไปในช่องคลอด

วิธีรักษาอาการคันช่องคลอด

1. แพทย์จะพิจารณาให้การรักษาจากอาการร่วมเป็นหลัก หากมีอาการตกขาวผิดปกติร่วมด้วย แพทย์อาจพิจารณาให้ยาดังต่อไปนี้

  • คันร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด อาจพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะรับประทาน เช่น Metronidazole, Clindamycin หรือ Doxycycline

  • คันร่วมกับการตกขาว ที่มีลักษณะเหมือนเชื้อรา อาจพิจารณาให้ยาเหน็บในช่องคลอด เช่น Clotrimazole ชนิดเหน็บ

  • มีประวัติเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงสูง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาเพื่อครอบคลุม เชื้อโรคในกลุ่มหนองใน เช่น Ceftriaxone ชนิดฉีด ร่วมกับยารับประทาน Azithromycin

2. แพทย์อาจพิจารณาให้ยาทา หากมีเพียงอาการคันบริเวณภายนอก ทั้งนี้ขึ้นกับลักษณะอาการร่วม เช่น ยา Clotrimazole cream หรือ Low-strength corticosteroid เป็นต้น และอาจพิจารณาให้ยาแก้แพ้รับประทานในกลุ่ม Anti-histamine เพื่อลดอาการคันได้เช่นกัน

ประสบการณ์แพทย์รักษาคันช่องคลอด


  • ผู้ป่วยที่หมอรักษาส่วนมากจะเป็นติดเชื้อราทั่วไป และมีบางเคสที่ทำการรักษาเชื้อราให้แล้วอาการดีขึ้นแต่ไม่ได้หายสนิท

    หมอต้องทำการตรวจโรคทางเพศสัมพันธ์ร่วมด้วยเพราะอาการคันเหล่านี้พบว่าเกิดจากติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ร่วมด้วย แล้วทำการรักษาให้ยาตามเชื้อที่ตรวจพบไปจึงหายสนิท

    – แพทย์หญิงวรางคณา วิวัลย์ศิริกุล (แพทย์ประจำอินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม) –

    พบแพทย์ที่อินทัชเมดิแคร์

     

ขั้นตอนการพบแพทย์เมื่อคันอวัยวะเพศ

  1. ซักประวัติอาการร่วมอื่นๆที่มากับอาการคันช่องคลอด รวมไปถึงประวัติเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน

  2. แพทย์จะทำการตรวจภายใน เพื่อประเมินรอยโรคบริเวณปากช่องคลอด ในช่องคลอด รวมไปถึงปากมดลูก อาจพิจารณาเพื่อส่งตรวจหาเชื้อ หากมีลักษณะที่บ่งถึงการติดเชื้อร่วมด้วย

เอกสารอ้างอิง

  • รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์. ภายใน’ ดูแลอย่างไรดี. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. 

  • ผศ.นพ. ชัยเลิศ พงษ์นริศร. ภาวะตกขาว (Vaginal Discharge). คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

  • Barad, D. H. Vaginal itching and discharge – gynecology and Obstetrics. MSD Manual Professional Edition.

บทความที่น่าสนใจ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

 Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก

    

 @qns9056c

 อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม

แก้ไขล่าสุด : 27/12/2023

อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com