การกลับมาเป็นซ้ำของเริมบ่อยๆ ทำให้ไม่อาจมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ เกิดความกังวล ในบางคนอาการมากจนถึงขั้นเป็นโรคประสาทชนิดกังวล หรือเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปเลย บทความนี้เป็นความรู้เกี่ยวกับอาการที่แสดงเมื่อกลับมาเป็นซ้ำของเริม การรักษา และสาเหตุของการกลับมาเป็นซ้ำ
การกลับมาเป็นซ้ำของเริม
ทำไมเริมถึงกลับมาเป็นซ้ำ
การกลับมาเป็นซ้ำของเริม คือผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสชนิดนี้และมีไวรัสหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทบริเวณสันหลัง ไวรัสจะถูกกระตุ้นให้เจริญและแสดงอาการออกมาเป็นครั้งคราว
โดยสาเหตุสำคัญที่พบว่าสามารถกระตุ้นไวรัสออกมาได้แก่ ความเครียด การเสียดสีของผิวหนัง ภูมิคุ้มกันร่างกายลดต่ำลง การพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมทั้งการมีไข้สูง
ความเครียด
ความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น อดนอน ใกล้รอบเดือน เดินทางไกล ใกล้สอบ เป็นต้น จะกระตุ้นทำให้เกิดการกลับมาเป็นซ้ำของเริมได้บ่อยที่สุด
การเสียดสีผิวหนังที่เคยเป็นเริม
การเสียดสีผิวหนังบริเวณที่เคยเป็น ในบางรายพบว่า การเสียดบริเวณที่เคยเป็นโรคเริม เช่น การร่วมเพศ อาจกระตุ้นการกลับมาเป็นซ้ำของเริม
อาการของการกลับมาเป็นซ้ำของเริม
อาการของการกลับมาเป็นซ้ำของเริม เป็นเริมที่เดิมซ้ําๆ ได้แก่ “อาการเตือน” ซึ่งมักจะเกิดก่อน 1-2 วัน โดยผู้ป่วยจะมีความรู้สึกเสียวร้าวบริเวณสันหลัง ขา หรืออวัยวะเพศ ตามมาด้วยความรู้สึกระคาย คัน หรือเจ็บแสบ
|
หลังจากนั้นจะเกิดตุ่มน้ำใสอยู่เป็นกลุ่ม แต่มีจำนวนน้อยกว่าการเป็นครั้งแรกมาก อาการเจ็บ แสบ จะน้อยกว่าและต่อมน้ำเหลืองอาจจะโตเล็กน้อย แต่ไม่เจ็บ แผลมักจะหายเร็วกว่า มักจะหายไปใน 10 วัน ในบางคนอาจเป็นบ่อยมาก เช่น ทุก 2 สัปดาห์
การรักษาเมื่อเริมกลับมาเป็นซ้ำ
ถ้าเป็นเริมซ้ำบ่อยมากจนมีปัญหาต่อสุขภาพและวิตกกังวล ควรปรึกษาแพทย์ซึ่งอาจจะช่วยได้โดยการให้ยา Acyclovir กินเป็นครั้งคราวขณะเกิดอาการเตือนก่อนจะเป็นโรค
จะทำให้ความรุนแรงของการเกิดโรคนี้น้อยลงมาก อาจเป็นเพียง 1-2 วันเท่านั้น แต่วิธีการนี้ไม่ได้รักษาโรคให้หายขาด ยังอาจเป็นได้อีกและบ่อยเท่าเดิม
มีค่าใช้จ่ายในการรักษาบ่อยครั้งและเกิดผลระยะยาว เช่น การเกิดเชื้อดื้อยา ซึ่งการใช้ยาควรภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม ดูแลตัวเองยังไงเมื่อเป็นโรคเริม วิธีง่ายๆ ต้องอ่าน!
บทความที่น่าสนใจ
อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม
คลินิกเวชกรรม
แก้ไขล่าสุด : 14/11/2024
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com