ตกขาวเป็นของเหลวที่ถูกขับออกจากช่องคลอดตามธรรมชาติ โดยปกติจะมีสีขาวหรือใสและไม่คัน ไม่มีกลิ่นผิดปกติ แต่หากมีตกขาวสีเขียว อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติและปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแล
อาการที่อาจพบร่วมด้วย ได้แก่ มีกลิ่นเหม็น คัน หรือปวดบริเวณช่องคลอด การปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญค่ะ
ข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับตกขาวสีเขียว
ตกขาวเป็นสีเขียวเกิดจากอะไร
ตกขาวสีเขียว (Green discharge) บางคนมีสีเขียวอ่อนส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด และเกิดจากการอักเสบติดเชื้อของเยื่อบุผิวช่องคลอด
ซึ่งช่องคลอดเป็นตำแหน่งที่เป็นสาเหตุของการเกิดตกขาวผิดปกติบ่อยที่สุด เนื่องจากความไม่สมดุลในช่องคลอด หากเกิดจากการได้รับเชื้อโรคผ่านทางทางการมีเพศสัมพันธ์ มักมีตกขาวสีเขียวปนเหลือง
อ่านเพิ่มเติม : ตกขาวปกติและตกขาวผิดปกติเป็นแบบไหน ผู้หญิงต้องรู้!
ลักษณะของตกขาวสีเขียว บอกโรคอะไร
หากมีตกขาวเป็นสีเขียวเกิดขึ้น มักจะนึกถึงโรค Vaginal trichomoniasis เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เกิดจากเชื้อ Trichomonas vaginalis ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคในช่องคลอด โดยคนทั่วไปเรียกกันว่าโรคพยาธิในช่องคลอด
และอาจจะเป็นโรคหนองในหรือช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้ค่ะ ควรให้แพทย์ตรวจ วินิจฉัยโรคและจ่ายยาให้ตรงกับโรค
โรคพยาธิในช่องคลอด
ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อพยาธิในช่องคลอดมักจะมาด้วยปัญหาตกขาวเขียวปนเหลือง มีฟองมาก พบว่าประมาณร้อยละ 50 ตกขาวมีกลิ่นเหม็น เกิดจากเชื้อโรคในช่องคลอดได้เพิ่มจำนวนและสร้าง สาร amine มากขึ้น ในขณะที่ประมาณร้อยละ 40 พบว่ามีอาการระคายและคันในช่องคลอดร่วมด้วย
หนองในแท้และหนองในเทียม
หนองในแท้ (Gonorrhea) ตกขาวมักจะมีสีเขียวและสีเหลือง และอาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์หนองในเทียม ตกขาวมีสีเขียวและสีเหลืองเล็กน้อย ส่วนมากมีสีขาวขุ่น และอาการอื่น ๆ เช่น ปวดแสบขณะปัสสาวะหรือมีการเจ็บปวดบริเวณช่องคลอด การวินิจฉัยและรักษาโรคนี้ควรทำโดยแพทย์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ควรรักษาทั้งหนองในแท้และเทียมควบคู่กันรวมถึงควรพาคู่นอนมาตรวจรักษาด้วย
ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
ผู้หญิงที่มีอาการช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ตกขาวมักจะมีสีขาวออกเขียวปนสีเทา ร่วมกับมีกลิ่นเหม็น กลิ่นคาวปลา ซึ่งจะเด่นชัดหลังจากมีเพศสัมพันธ์หรือช่วงมีประจำเดือน ตกขาวเป็นน้ำ หรือในผู้ป่วยบางรายก็ไม่มีอาการแสดง
วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นตกขาวมีสีเขียว
หากมีอาการตกขาวที่ดูผิดปกติไปสามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นง่ายๆหรือปรับพฤติกรรมบางอย่างก่อนได้ ดังต่อไปนี้
-
หลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท สามารถทานอาหารได้ตามปกติ แต่ควรเลี่ยงประเภทที่กระตุ้นอาการให้แย่ลงหรือส่งผลต่อสุขภาพช่องคลอด เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารหมักดอง และอาหารไขมันสูง
-
งดการมีเพศสัมพันธ์ ถ้าตกขาวผิดปกติควรงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าอาการจะดีขึ้น เพราะการมีเพศสัมพันธ์เสี่ยงต่อการส่งผ่านเชื้อจากภายนอกเข้าสู่ช่องคลอด และส่งผ่านเชื้อจากช่องคลอดไปสู่ภายนอกได้ หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง
-
ทำความสะอาดอวัยวะเพศ เน้นทำความสะอาดภายนอกด้วยน้ำสะอาด งดใช้น้ำยาสวนล้างช่องคลอดเนื่องจากจะทำให้สภาพแวดล้อมในช่องคลอดเสียสมดุล เสี่ยงต่อการติดเชื้อตามมา
-
งดสอดใส่สิ่งแปลกปลอมในอวัยวะเพศ เนื่องจากเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดช่องคลอดอักเสบและภาวะอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน รวมถึงไม่ควรใส่กางเกงในที่รัดจนเกินไป
วิธีการรักษาตกขาวสีเขียว กินยาอะไร
โรคนี้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงควรรักษาทั้งตนเองและคู่นอนด้วย ยาที่แนะนำให้ใช้ในการรักษามี 2 ชนิด ได้แก่
-
Metronidazole
-
Tinidazole
|
ตกขาวสีเขียวอันตรายไหม
อาการนี้สามารถเป็นอันตรายได้หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงทีและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้น เพราะตกขาวสีเขียวบ่งบอกถึงโรคพยาธิในช่องคลอดซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถติดต่อกันได้ง่ายและทำให้เกิดภาวะอักเสบติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานตามมา
ผู้ป่วยบางรายมีการอักเสบของปากมดลูกร่วมด้วย ปากมดลูกมีลักษณะเปื่อยและมีจุดสีแดงทำให้ดูคล้ายกับสตรอเบอร์รี่ เรียกว่า strawberry cervix ผู้ป่วยบางรายอาจมีเลือดปนออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ หากมีการติดเชื้อชนิดดังกล่าวในสตรีมีครรภ์อาจทำให้เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดและน้ำเดินก่อนกำหนดได้
หากพบว่ามีอาการตกขาวผิดปกติ |
ตกขาวสีเขียวหายเองได้ไหม
ตกขาวเป็นสีเขียวหายเองได้ แต่มีโอกาสค่อนข้างน้อย ในบางกรณีสามารถหายเองได้ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ของร่างกาย แต่โดยส่วนมากจะหายได้ช้าและเกิดภาวะอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานตามมา และมีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้บ่อย เมื่อพบว่ามีการกลับเป็นซ้ำหลายครั้งควรพาคู่นอนมาตรวจรักษาร่วมด้วย
การที่คุณผู้หญิงมีตกขาวสีเขียว รวมทั้งมีอาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วย ไม่ควรปล่อยไว้ให้หายเองเพราะเสี่ยงจะเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เพิ่มเติมขึ้นมา ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษา ทางที่ดีที่สุดคือรักษาที่ตัวคุณเองร่วมกับคู่นอนเพื่อลดการเกิดซ้ำค่ะ
เอกสารอ้างอิง
-
Soper DE. Genitourinary infections and sexually transmitted diseases. In: Berek JS, Adashi EY, Hillard PA, editors. Novak’s gynecology. 12th ed. Baltimore: Williams & Wilkins, 1996:429-45.
-
ตำรานรีเวชวิทยา ฉบับเรียบเรียงครั้งที่ 4 ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
-
นรีเวชวิทยา ฉบับสอบบอร์ด เรียบเรียงครั้งที่ 4 ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
บทความที่น่าสนใจ
พญ.นลพรรณ พิทักษ์สาลี
แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป
แก้ไขล่าสุด : 18/07/2024
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com