ยาลดไขมันในเลือด กินตอนไหนบ้าง ตัวยามีผลข้างเคียงไหม

ยาลดไขมัน เป็นยาที่มีประโยชน์ในการลดระดับไขมันในหลอดเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอันตรายต่างๆมากมากมาย อาทิ โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ จัดเป็นกลุ่มยาที่มีงานวิจัยรองรับมากที่สุดในโลก เนื่องจากในปัจจุบันนิสัยในการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหาร มีผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงในการพบไขมันสะสมในหลอดเลือดสูงขึ้น ไม่เว้นแม่แต่ในคนที่อายุน้อย หรือคนที่ไม่ได้มีน้ำหนักตัวมาก ก็ยังสามารถตรวจพบระดับไขมันในหลอดเลือดสูงได้เช่นกัน

หัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับยาลดไขมัน

วันนี้เรามาทำความรู้จักยาลดไขมัน กันดีกว่าว่ามีวิธีการรับประทานทาน ผลข้างเคียงที่ต้องทราบ ระยะเวลาการรับประทาน และเปรียบเทียบถึงประโยชน์หรือผลข้างเคียง ว่าควรเริ่มรับประทานยาลดไขมันหรือไม่ครับ


ค่าไขมันในเลือดสูงเท่าไร ต้องกินยา

หากอยากทราบว่าค่าไขมันสูงเท่าไหร่ต้องทานยาลดไขมัน ต้องเริ่มจากการเช็คตนเองก่อนว่าตัวของเราจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ โดยใช้ Thai CV risk score ( ทุกคนสามารถ search คำนี้ใน google แล้วลองคำนวณความเสี่ยงตัวเองดูได้ มีค่าคำนวณความเสี่ยงโดยไม่เจาะเลือด เพื่อประเมิณเบื้องต้นด้วย )

เมื่อพิจารณาจาก ตัวแปร ที่เราต้องใส่ไปในการคำนวณจาก Thai CV risk score จะเห็นได้ว่า ตัวแปรที่ต้องใส่จะมี อายุ เพศ ความดันโลหิต พฤติกรรมการสูบบุหรี่ โรคเบาหวาน และรอบเอว เพียงเท่านี้ก็พอจะคาดเดาได้แล้วว่า ปัจจัยไหนที่ทำให้เราเสี่ยงบ้าง โดย Thai CV risk score นั้นคือ “แบบประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในระยะเวลา 10 ปี สำหรับคนไทย” โดยแบ่งเป็น

ตัวอย่างการคำนวณผลใน Thai CV risk score เพื่อหาความเสี่ยงไขมันในเลือดสูง

  • Low risk : เสี่ยงน้อยกว่า 5% หมายถึง หากตัวเราคำนวณผลออกมาแล้วอยู่ในกลุ่มนี้ แปลว่า ในระยะเวลา 10 ปี ข้างหน้า เราก็มีโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด 5% โดยคนไข้กลุ่มนี้ อาจยังไม่ต้องเริ่มยาในการพบแพทย์ครั้งแรก แม้ค่าไขมันจะสูงก็ตาม จะเป็นการให้คำแนะนำในการปรับพฤติกรรมการใช่ชีวิต ( การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย เป็นต้น ) 
  • Borderline risk : เสี่ยงตั้งแต่ 5% แต่ไม่ถึง 7.5%
  • Intermediate risk : เสี่ยงตั้งแต่ 5% แต่ไม่ถึง 20%
  • High risk : เสี่ยงตั้งแต่ 20% ขึ้นไป

เมื่อประเมิณความเสี่ยงดังข้างต้น และทราบว่าตัวคุณเองอยู่ในกลุ่มไหน แพทย์ก็จะนำมาประกอบการตัดสินใจในการเริ่มรักษาและจ่ายยาลดไขมัน โดยมีเป้าหมายในการลดไขมัน แตกต่างกันไป

ดังนั้นหากคุณเคยไปรับตรวจไขมันในเลือด หรือตรวจวัดค่าไขมันออกมาแล้วพบว่า ค่าไขมันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่า Cholesterol, Triglyceride , LDL , HDL นั้นสูงกว่าค่าที่อ้างอิงในใบแล็บ ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเริ่มรับประทานยาลดไขมันในทันที แพทย์อาจจะแนะนำให้ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและออกกำลังกาย แล้วนัดมาดูค่าไขมันใหม่ในนัดหมายถัดไปเพื่อพิจารณาการจ่ายยาอีกครั้ง ซึ่งในแง่ของ ตัวเลขค่าไขมันสูงเท่าไรต้องกินยานั้น แพทย์แต่ละท่านจะทำการพิจารณาไปเป็น case by case

 สิ่งสำคัญคือการที่คนไข้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการมีไขมันในเลือดสูง แล้วเกิดพฤติกรรมป้องกัน หรือเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต สิ่งนี้คือส่วนสำคัญในการลดไขมันในเลือด และทำให้คนไข้มีสุขภาพที่ดีในระยะยาว 

ยาลดไขมันในเลือดกลุ่ม Statin

การทานยาลดไขมันในเลือด ช่วยอะไรบ้าง

ผลของการศึกษาเกี่ยวกับสแตติน ในช่วงแรกหลังการมาของยาลดไขมันกลุ่มสแตติน Statins ชื่อว่า The Scandinavian Simvastatin Survival Study ( 4S )  ในตัวงานวิจัยมีการสรุปได้ว่า คนไข้ที่ทานยาลดไขมัน simvastatin 20-40 mg. ต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี มีอัตราการเสียชีวิตจากหลายๆปัจจัยลดลงถึง 30% เทียบกับคนไม่ได้ทาน หลังจากนั้น หลายๆงานวิจัยที่เกิดขึ้นตามมารวมถึงปัจจุบัน ก็เป็นไปในทิศทางบวกว่า การทานยาลดไขมันในเลือด นั้นมีประโยชน์กว่าไม่ทาน จริงๆ


สนใจเข้ารับบริการคลิกที่นี่

ผลข้างเคียงของยาลดไขมันในเลือด

อาการปวดกล้ามเนื้อ ผลข้างเคียงจากยาลดไขมันในเลือด

ผลข้างเคียงที่พบ ในยากลุ่ม Statins คือ อาการปวดกล้ามเนื้อ โอกาสเกิด อ้างอิงจากการเก็บสถิติจาก คนไข้ชาวอเมริกา 10 ล้านคน มี 5-30 % ที่คนไข้มีอาการเมื่อยกล้ามเนื้อ ส่วนมากบริเวณ ต้นแขน และต้นขา เป็นอาการปวดเมื่อยที่ยังทำกิจวัตรประจำวันได้

อาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณขา ผลข้างเคียงจากยาลดไขมันในเลือด

โดยส่วนน้อยมากๆ น้อยกว่า 1% มีอาการปวดมาก ขนาดที่เดินขึ้นบันได หรือ ลุกจากโซฟาไม่ได้ เพราะปวดกล้ามเนื้อบริเวณต้นขา หรือต้นแขน โดยกลไกการเกิดผลข้างเคียงนี้ยังไม่แน่ชัด ในปัจจุบันมีเพียงทฤษฎี ว่าทำให้เกิดการอักเสบในเซลล์กล้ามเนื้อ จึงทำให้มีอาการปวดเมื่อยดังกล่าว

แพทย์พิจารณาเพื่อจ่ายยาลดไขมันในเลือด
ผลข้างเคียงอื่นๆคือ มีผลต่อตับหรือระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น แต่สองข้อนี้ไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะเมื่อมาทำการรักษากับแพทย์ แพทย์จะมีการซักประวัติยาที่คนไข้ทานประจำหรืออาหารเสริม และงดจ่ายยาบางตัวที่มีผลต่อตับหรือน้ำตาล และมีการตรวจเลือดเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงกับคนไข้ ในแง่การเกิดตับอักเสบหรือน้ำตาลสูง

ตรวจไขมันในเลือด คลิกเลย


ยาลดไขมันในเลือด กินตอนไหนบ้าง?

ร่างกายของคนเรานั้นมีจะการสังเคราะห์ไขมันมากในช่วงเวลาตอนกลางคืน ดังนั้นในอดีต จะแนะนำทานยาลดไขมันในเลือด เป็นตอนเย็นหรือก่อนนอน เพื่อลดการสังเคราะห์ไขมันที่จะเกิดขึ้นในตอนกลางคืน แต่ปัจจุบันนี้ยา statins ในท้องตลาด ได้พัฒนาขึ้นไปมาก ทำให้ออกฤทธิ์นานขึ้น จนมีงานวิจัยนำมาเปรียบเทียบว่า หากนำยามาทานช่วงเช้าพร้อมยาตัวอื่นๆ ผลลัพธ์ที่ได้จะต่างกันหรือไม่ 

สรุปคือได้ผลที่แตกต่างกัน แต่ก็ไม่ได้มีนัยยะสำคัญทางสถิติ กล่าวก็คือ ยาลดไขมันในเลือดสามารถทานตอนเช้าได้ หากคนไข้มีแนวโน้มที่จะลืมทานน้อยกว่า เพราะประโยชน์จะเกิดสูงสุดคือการรับประทานยาทุกวัน เพื่อลดหรือควบคุมไขมันอย่างต่อเนื่อง


ยาลดไขมันสามารถกินวันเว้นวันได้ไหม

ยาลดไขมันในเลือดกลุ่ม statins ในท้องตลาดตอนนี้ โดยเฉพาะในไทย ยังไม่มีตัวไหนที่ออกฤทธิ์นานเกิน 1 วัน ดังนั้น ยังคงแนะนำให้ทานทุกวันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงคำแนะนำจาก องค์การอาหารและยาสหรัฐ ( FDA ) ก็ยังคงแนะนำให้ทานทุกวันอยู่

ยาลดไขมันในเลือด ต้องกินตลอดชีวิตไหม?

ยาลดไขมันในเลือด ต้องกินตลอดชีวิตไหม

ยาทุกตัวนั้นสามารถหยุดทานได้ หากตัวของคนไข้เองสามารถทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีแข็งแรงอย่างต่อเนื่อง แต่จากตัวแปรดังที่กล่าวไว้ข้างของต้นบทความ มีในส่วนของ ” อายุ ” เข้ามาเป็นอีกหนึ่งในตัวแปรด้วย เมื่อคนเรามีอายุเพิ่มขึ้น แม้เราจะควบคุมการรับประทานอาหาร ( ซึ่งในทางปฏิบัติก็เป็นไปได้ยากที่จะเลี่ยงอาหารที่มีไขมันในทุกๆมื้อติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี ) ก็ยังมีความเสี่ยงจากความเสื่อมสภาพของร่างกายและหลอดเลือด

ซึ่งมีงานวิจัยบทหนึ่งระบุว่า ในกลุ่มคนไข้ที่รับประทานยาลดไขมัน ตั้งแต่อายุ 50 ปี แล้วไปหยุดรับประทานยาลดไขมันในเลือด ตอนอายุ 80 ปี เปรียบเทียบกับ กลุ่มคนไข้ที่ยังคงทานยาไขมันต่อเนื่อง พบว่ากลุ่มที่หยุดยาจะเสียผลประโยชน์ในระยะยาวของยาลดไขมันไปมากกว่า 70% ดังนั้นการเลือกรับประทานยาลดไขมันต่อเนื่อง ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่มีประโยชน์ต่อคนไข้มากกว่าทานแล้วหยุดนั่นเอง

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลและงานวิจัยที่รองรับมากมาย การรับประทานยาลดไขมัน เมื่อมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ มีประโยชน์อย่างมาก ในการป้องกันโรคร้ายแรงในอนาคต ตัวยาเองนั้นมีผลข้างเคียงเรื่องการปวดกล้ามเนื้อ ซึ่งจัดเป็นผลข้างเคียงที่ไม่อันตราย (อาจเรียนได้ว่าเป็นอาการข้างเคียงที่ก่อให้เกิดเพียงความรำคาญ แต่ไม่ก่อให้เกิดโทษ)

รวมถึงเมื่อคนไข้รับยาโดยแพทย์ จะมีการตรวจสอบยาทานร่วมอื่นๆ ตรวจติดตามค่าไขมัน ว่าลดได้ตามเป้าหมายการรักษาหรือไม่ หากยังไม่สามารถลดระดับไขมันได้ตามเป้า ก็ยังมีระดับยาลดไขมันที่มีความสามารถสูงอีกหลายตัวในการใช้รักษา เนื่องจากเป็นยาที่ได้รับการใช้แพร่หลาย งานวิจัยและการพัฒนายาก็เลยเยอะมากตามไปด้วย ทำให้จัดเป็นยาที่มีประโยชน์ ปลอดภัย และอัพเดทอยู่เสมอครับ

บทความที่น่าสนใจ

เอกสารอ้างอิง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

 Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก

    

 @qns9056c

 อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม

 แก้ไขล่าสุด : 18/01/2024

อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com