ไข้หวัดธรรมดา อาการป่วยที่พบบ่อยในทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว และเป็นอาการที่พบบ่อยในคลินิก โดยผู้ป่วยมักมาด้วยอาการ ไอ จาม น้ำมูกไหล หรืออาการไข้
ถึงแม้ว่าการเป็นหวัดจะดูเป็นอาการป่วยธรรมดา ๆ แต่ก็สามารถมีอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ ซึ่งมักพบในกรณีที่เป็นซ้ำหลังจากที่เพิ่งหายดี รู้จักโรคหวัดให้มากขึ้นในบทความนี้
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคไข้หวัดธรรมดา
ไข้หวัดธรรมดาเกิดจากอะไร
ไข้หวัดธรรมดา หรือโรคหวัด (Common cold) คือ อาการที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจส่วนบนเฉียบพลัน สามารถหายเองได้
เชื้อไวรัสส่วนใหญ่ที่ก่อให้เกิดอาการหวัดธรรมดา จะไม่ได้ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันระยะยาว อีกทั้งไวรัสยังมีหลากหลายชนิด (Serotype) จึงทำให้ผู้ป่วยสามารถติดหรือเป็นซ้ำได้บ่อยนั่นเอง
อาการของไข้หวัด
เบื้องต้นสามารถสังเกตุจากอาการที่พบได้บ่อย คือ มีไข้, มีน้ำมูกไหล, คัดจมูก, เจ็บคอ, ระคายคอ, จาม และไอ โดยอาการมักรุนแรงขึ้นใน 3 วันแรก และทุเลาลงในวันที่ 4-7 วัน แต่อาการไอและมีน้ำมูกอาจอยู่ได้ถึง 10-14 วัน จากนั้นจะหายเอง
ในช่วงแรกน้ำมูกจะใสเหลว เนื่องจากเป็นสารที่ร่างการหลังเพื่อกำจัดเชื่อโรคในโพรงจมูกและไซนัส หลังจากนั้นเมื่อเม็ดเลือดขาวทำการกำจัดไวรัสจะส่งผลให้น้ำมูกข้นขึ้นหรือเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่นหรือเขียวได้
อาการของคนไข้ที่พบบ่อยจะเป็นอาการมีน้ำมูก เจ็บคอ และไอ โดยในเด็กจะพบว่ามีอาการไข้ได้บ่อยกว่าผู้ใหญ่
หากมีอาการหายใจหอบเหนื่อย หรือมีเสียงวี๊ดเป็นสิ่งที่บ่งบอกการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง ให้รีบพบแพทย์ ในกรณีที่เป็นเด็กเล็ก หากกินได้น้อย ซึมลง บ่งบอกถึงถาวะขาดน้ำให้รีบพบแพทย์เช่นกัน
– แพทย์หญิงนารดา พิรชวิสุทธิ์ แพทย์ประจำอินทัชเมดิแคร์คลินิก –
อ่านบทความ: อาการไข้หวัดใหญ่กับไข้หวัดธรรมดา แตกต่างกันอย่างไร?
เป็นหวัดเป็นกี่วันหาย
โดยมากจะหายภายใน 7 วันในผู้ใหญ่ และ 10-14 วันในเด็ก โดยอาการมักรุนแรงขึ้นใน 3 วันแรก และทุเลาลงในวันที่ 4-7 วัน แต่อาการไอและมีน้ำมูกอาจอยู่ได้ถึง 10-14 วัน จากนั้นจะหายเอง
หูชั้นกลางอักเสบ
เนื่องจากท่อปรับความดันในหูชั้นกลาง (Eustachian tube) เชื่อมกับโพรงจมูก หากเยื่อโพรงจมูกบวม อาจทำให้ท่อนี้ตัน เป็นผลให้หูชั้นกลางอักเสบได้
มักเกิดในเด็กเล็ก เนื่องจากท่อปรับความดันมีโครงสร้างที่ง่ายต่อการติดเชื้อมากกว่า
โพรงจมูกและไซนัสอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียตามหลังการเป็นหวัดธรรมดา โดยอาการคือ เป็นหวัดมากกว่า 10 วัน มีไข้รอบใหม่
น้ำมูกมีลักษณะเป็นหนอง มีกลิ่น ปวดบริเวณโหนกแก้ม หรือหัวคิ้ว
ปอดอักเสบ
พบได้ในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อที่ลามไปบริเวณทางเดินหายใจส่วนล่าง
อาจเกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียก็ได้ อาการคือ หอบเหนื่อย ไอมากขึ้น ในเด็กเล็กอาจมีหายใจแรง อกบุ๋ม ปีกจมูกบาน
เลือดกำเดาไหล
เลือดกำเดาไหลเป็นอาการแทรกซ้อนที่สามารถเกิดได้ เนื่องจากการสั่งน้ำมูก หรือเช็ดจมูกเป็นเวลาหลายวัน
ส่งผลทำให้เส้นเลือดฝอยแตก เยื่อบุในจมูกบวมแดงและแห้ง จึงมีอาการของเลือดกำเดาไหลได้
ไข้หวัดติดต่อได้อย่างไร
ไข้หวัดสามารถติดต่อโดยที่เชื้อไวรัสทำการแพร่ผ่านทางละอองน้ำลาย น้ำมูก เมื่อผู้ป่วยไอหรือจาม ละอองฝอยนี้แพร่ไปยังผู้อื่นผ่านการสูดดมหรือละอองฝอยเหล่านี้อาจไปตกบริเวณพื้นผิวของสิ่งต่างๆ เมื่อผู้อื่นสัมผัสแล้วนำมือมาสัมผัสบริเวณจมูก ตา ปากก็จะทำให้ติดได้เช่นกัน
การป้องกันไม่ให้ผู้อื่นติดหวัด
วิธีการรักษา
การรักษาไข้หวัดธรรมดาไม่จำเป็นต้องได้รับยาฆ่าเชื้อ เนื่องจากเกิดจากไวรัสไม่ใช่แบคทีเรีย ยาฆ่าเชื้อไม่ได้ทำให้หวัดหายเร็วขึ้น หากได้รับยาฆ่าเชื้อโดยไม่จำเป็นอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงของยา เช่น ถ่ายเหลว, การแพ้ยา และเสี่ยงเชื้อดื้อยาในอนาคต
อาการส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 5-7 วัน ยาส่วนใหญ่จะเป็นการบรรเทาอาการ ในกรณีที่เป็นหวัดจากเชื้อ COVID-19 หรือไข้หวัดใหญ่ ยาต้านไวรัสอาจช่วยลดความรุนแรงของอาการและระยะเวลาในการเป็น
สิ่งที่ช่วยให้อาการหวัดดีขึ้นคือ การพักผ่อนให้เพียงพอ, ดื่มน้ำมากๆ, ในเด็กเล็กแนะนำให้ใช้ลูกยางดูดน้ำมูกหรือใช้น้ำเกลือล้างจมูก, ในผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 1 ปี น้ำผึ้งสามารถช่วยบรรเทาอาการไอและเจ็บคอได้
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่เป็นหวัดธรรมดาแล้วซื้อยากินตั้งแต่ช่วง 1-2 วันแรกมักมาด้วยว่าอาการไม่ดีขึ้นในวันที่ 3 ซึ่งเป็นปกติของหวัดที่จะแย่ลงในวันที่ 3 แล้วค่อยๆดีขึ้นในวันที่ 4-5 หากไม่ได้มีอาการอื่นที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อแบคทีเรีย สามารถรอดูอาการก่อนได้
โดยหากกินยาแล้วยังมีอาการ อาจพิจารณาใช้ยาเฉพาะที่ (Local) เช่น ยาพ่นแก้อักเสบที่พ่นบริเวณลำคอโดยตรง หรือยาหยดจมูกลดน้ำมูก
– แพทย์หญิงนารดา พิรัชวิสุทธิ์ แพทย์ประจำอินทัชเมดิแคร์คลินิก –
อาการแบบใดควรมาพบแพทย์
-
หายใจเหนื่อย, หายใจเร็ว และอกบุ๋ม (Pectus Excavatum) ในเด็ก
-
กินไม่ได้ รู้สึกเพลียมาก
-
เป็นไข้นานมากกว่า 4 วัน
-
มีอาการของโรคหวัดนานมากกว่า 10 วัน โดยที่ไม่ดีขึ้น
-
กลับมามีอาการแย่ลงใหม่ เช่น มีไข้รอบใหม่ หรือไอมากขึ้น
-
มีอาการปวดหู เจ็บบริเวณโหนกแก้มหรือใบหน้า
บทความที่น่าสนใจ
พญ.นารดา พิรัชวิสุทธิ์
แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป
แก้ไขล่าสุด : 15/10/2024
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com