เมื่ออ่อนเพลียหรือท้องเสีย เรามักจะคุ้นเคยกับการไปหาหมอ แล้วหมอให้น้ำเกลือ แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะได้รับการรักษาเช่นนี้ เนื่องจากว่าการให้น้ำเกลือจะอยู่ที่การวินิจฉัยของแพทย์เท่านั้น เพราะในน้ำเกลือมีส่วนผสมของสารหลายอย่างที่เฉพาะทางการแพทย์ มีหลายชนิด มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน รวมทั้งผู้ป่วยแต่ละคนมีความจำเป็นต้องใช้น้ำเกลือแตกต่างกัน
และที่สำคัญการได้รับน้ำเกลือมากเกินไปอาจส่งผลเสียตามมาได้ แพทย์จะพิจารณาจะให้ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับเท่านั้น
เรื่องที่ควรรู้เรื่องการให้น้ำเกลือ
น้ำเกลือ คืออะไร
น้ำเกลือ คือ สารละลายที่มีองค์ประกอบเกลือแร่ต่างๆ โซเดียมคลอไรด์ (Sodium chloride) ไบคาร์บอนเนต (Bicarbonate) ฟอสเฟต (Phosphate) หรือบางชนิดก็มี โพแทสเซียม (Potassium) มีน้ำตาล ในปริมาณสัดส่วนต่างๆกัน ขึ้นกับชนิดของน้ำเกลือ
ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างทางการแพทย์ เช่น ทำความสะอาดบาดแผล ให้ความชุ่มชื้นกับตา ช่วยในการเอาเลนส์สัมผัสออกจากตา สามารถให้ทางหลอดเลือดดำเพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำหรือที่เราคุ้นเคยกับคำว่า “ให้น้ำเกลือ” นั่นเอง
ทำไมต้องให้น้ำเกลือ
การให้น้ำเกลือเป็นการช่วยผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงได้ ซึ่งน้ำเกลือสามารถทดแทนน้ำที่ร่างกายเสียไปได้อย่างรวดเร็วหรือช่วยชดเชยพลังงานเวลาที่ผู้ป่วยอ่อนเพลียได้ เพราะน้ำเกลือมีระดับความเข้มข้นเท่ากับที่ร่างกายต้องการ
นอกจากนี้ยังอาจใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ตามปกติอีกด้วยรวมทั้งในกรณีอื่นๆ เช่น ให้น้ำเกลือก่อนและหลังการผ่านตัด ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์
ชนิดของน้ำเกลือที่นิยมในการให้น้ำเกลือ
-
นอร์มัลซาไลน์ (Normal saline solution/NSS) หมายถึง น้ำเกลือเกลือธรรมดาที่มีความเข็มข้น 0.9% ซึ่งเท่ากับกับความเข้มข้นของเกลือในกระแสเลือดของคนปกติ มีอย่างขนาด 500 มล. และ 1,000 มล.
-
5% เดกซ์โทรส ( 5% Dextrose in water หรือ 5%D/W) หมายถึงน้ำตาลเดกซ์โทรสที่มีความเข้นข้น 5% ไม่มีเกลือแร่ผสม มีอย่างขนาด 500 มล. และ 1,000 มล.
-
5% เดกซ์โทรสในนอร์มัลซาไลน์ (5% Dextrose in NSS หรือ 5% D/NSS) หมายถึง น้ำตาลเดกซ์โทรส เข้มข้น 5% ผสมกับน้ำเกลือธรรมดา
-
5% เดกซ์โทรสใน 1/3 นอร์มัลซาไลน์ (5% Dextrose in 1/3 NSS) หมายถึง น้ำตาลเดกซ์โทรสเข้มข้น 5 % ผสมกับน้ำเกลือที่มีความเข้มข้น 0.3% (เข้มข้นเพียง 1/3 ของน้ำเกลือธรรมดา) มีอย่างขนาด 500 มล. และ 1,000 มล.
การให้น้ำเกลือแต่ละชนิดกับผู้ป่วยจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ ตามความเหมาะสมของแต่ละกรณี
วิธีการให้น้ำเกลือหรือสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
-
เตรียมอุปกรณ์สำหรับการให้น้ำเกลือผู้ป่วย ตรวจสอบป้ายข้อมือ ทวนชื่อ-สกุล ผู้ป่วยก่อนการให้น้ำเกลือ
-
เลือกตำแหน่งหลอดเลือดดำที่จะแทงเข็มให้เหมาะสมกับสภาพผู้ป่วย เลือกตำแหน่งแทงเข็มบริเวณหลอดเลือดดำหลังมือและแขน ทั้ง metacarpal, cephalic, และ basilic veins
-
รัดสายรัด (Tourniquet) เหนือตำแหน่งที่จะแทงเข็ม จากนั้นเช็ดบริเวณที่จะแทงเข็มด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ด้วยน้ำยาทำลายเชื้อรอให้แท้ง ได้แก่ 70% alcohol ทิ้งไว้ให้แห้งหรืออย่างน้อย15 วินาที่ หรือ โพวิโดน-ไอโอดีน (Povidone-iodine) อย่างน้อย 2 นาที หรือ 2% Chlorhexidine gluconate in alcohol อย่างน้อย 30 วินาที
-
แทงเข็มให้น้ำเกลือ (IV Catheter) โดยให้เข็มอยู่ในแนว 30 องศา กับผิวหนังที่จะแทง ดันเข็มให้น้ำเกลือ เข้าหลอดเลือดดำอย่างระมัดระวัง และเบามือเมื่อเห็นเลือดย้อนขึ้นมาให้ดึงแกนนำร่อง (stylet) ออกและต่อชุดให้น้ำเกลือ (Set IV Fluid) เข้ากับเข็มให้น้ำเกลือข้อต่อให้แน่น แล้วทดสอบการไหลของสารน้ำ
-
ปิดทับด้วยแผ่นฟิล์มใสปิดแผลกันน้ำ (Transparent film) และปิดพลาสเตอร์ทับสายให้น้ำเกลือโดยให้สามารถเห็นบริเวณที่แทงเข็มที่ปิดด้วยแผ่นฟิล์มใสปิดแผลกันน้ำ เพื่อสามารถสังเกตหลอดเลือดดำ (Phlebitis) หรือการรั่ว (Extravasation) ได้ง่าย กรณีที่ผู้ป่วยมีเหงื่อออกมาก หรือมีเลือดซึมบริเวณที่แทงเข็ม ให้ใช้ก๊อซปราศจากเชื้อปิดตำแหน่งที่แทงเข็ม
-
ปรับจำนวนหยดตามแผนการรักษา เก็บอุปกรณ์ ถอดถุงมือและทำความสะอาดมือ
ป่วยที่ต้องให้น้ำเกลือหรือสารน้ำทางหลอดเลือดดำ
1.ผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ หรือกินข้าวและน้ำไม่ได้นาน ๆ ควรให้น้ำเกลือ เพื่อเป็นการรักษาระดับและทดแทนน้ำ เกลือแร่ วิตามิน โปรตีน ไนโตรเจน และพลังงาน
2.ผู้ป่วยที่มีภาวะไม่สมดุลของกรด-ด่าง
3.ผู้ป่วยที่สูญเสียน้ำและเกลือแร่ปริมาณมากๆ รวมถึงผู้ป่วยที่มีภาวะไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte)
4.ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับเลือดหรือรับการผ่าตัด เพราะต้องอดอาหารและน้ำก่อนและหลังผ่าตัด
5.ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับยาทางหลอดเลือดดำ
6.ผู้ป่วยที่ขาดน้ำ ท้องเดิน อาเจียนรุนแรง
7.ผู้ป่วยที่น้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) เนื่องจากอดอาหารนาน ๆ ดื่มเหล้าจัด ผู้ที่ใช้ยารักษาเบาหวานเกินขนาด
ประโยชน์ของการให้น้ำเกลือ
-
ทดแทนสารน้ำในร่างกายผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว
-
การให้น้ำเกลือจะสามารถทดแทนเกลือแร่ในร่างกายที่สูญเสียไปได้อย่างรวดเร็ว
-
เพื่อเป็นการทดแทนน้ำตาลในผู้ป่วยที่มีภาวะน้ำตาลต่ำได้อย่างรวดเร็ว
-
ช่วยให้การรักษาอื่นๆเป็นไปได้สะดวก เช่น ให้น้ำเกลือช้าๆ คากับหลอดเลือดดำในคนที่ต้องฉีดยาวันละหลายๆครั้ง
หมอจะให้น้ำเกลือในกรณีใดบ้าง
-
ร่างกายอยู่ในสภาวะขาดน้ำ/กำลังสูญเสียน้ำ
-
มีการสูญเสียเกลือแร่จากอาการป่วยที่ต้องการการทดแทนโดยเร็ว
-
ผู้ป่วยที่ไม่สามารถดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอได้เอง รวมทั้งในกรณีที่จำเป็นจะต้องงดน้ำงดอาการทางปาก
-
ความดันโลหิตต่ำจากสภาวะขาดน้ำ
-
เกลือแร่บางชนิดในร่างกายผิดปกติ
-
ผู้ที่มีระดับน้ำตาลให้เลือดต่ำ
-
ใช้ร่วมกับการรักษาอื่น เช่น ร่วมกับการให้ยาปฎิชีวนะ
ข้อควรระวังการให้น้ำเกลือ
ผลข้างเคียงและอาการแทรกซ้อนของการให้น้ำเกลือ
-
หากเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ให้น้ำเกลือและน้ำยาที่ใช้ไม่สะอาด หรือเทคนิคการให้ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อได้
-
หากเกิดฟองอากาศ เพราะไล่อากาศจากสายน้ำเกลือไม่หมด ฟองอากาศจะเข้าไปในหลอดเลือดดำ และเข้าสู่หัวใจอาจเป็นอันตรายได้
-
มีอาการไข้และหนาวสั่น ปวดศีรษะและปวดเมื่อย ตามตัว จากการแพ้น้ำเกลือ
-
หากให้น้ำเกลือที่มีความเข้มข้นของเกลือมากกว่าความเข้มข้นของเกลือในเลือด อาจเป็นอันตรายถึงตายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก
-
ถ้าให้น้ำเกลือมากหรือเร็วเกินไป อาจทำให้มีอาการบวม มีน้ำคั่งในปอด หรือหัวใจวายถึงตายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก คนสูงอายุ คนที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคไตอยู่ก่อน
พ.ญ.อรอุมา เพียรผล, แพทย์หญิงวรางคณา วิวัลย์ศิริกุล
แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป
แก้ไขล่าสุด : 03/09/2024
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com